Bill Payment คืออะไร
เป็นการให้บริการรับชำระค่าสินค้า ค่าบริการ หรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ แทนเจ้าหนี้ (อาทิ ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าบัตรเครดิต ค่าบริการอินเทอร์เน็ต) เช่น เมื่อได้รับใบแจ้งหนี้ค่าน้ำประปาจากการประปาซึ่งเป็นเจ้าหนี้และเป็น “ผู้ออกใบแจ้งหนี้ หรือ biller” แล้วผู้ใช้น้ำสามารถนำใบแจ้งหนี้นี้ไปชำระได้ที่ผู้ให้บริการรับชำระเงินแทนโดยไม่ต้องเดินทางไปชำระที่สำนักงานของการประปาโดยตรง
นอกจากการส่งใบแจ้งหนี้ที่เป็นกระดาษแล้ว biller บางรายอาจให้บริการส่งใบแจ้งหนี้ให้ลูกค้าทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น ทางอีเมล SMS หรือลูกค้าสามารถเรียกดูผ่านเว็บไซต์ได้เลย รวมถึงอาจให้ลูกค้าชำระเงินได้ทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านเครื่อง ATM อินเทอร์เน็ต หรือโทรศัพท์มือถือ ได้อีกด้วย
ช่องทางการให้บริการ เช่น
1. ธนาคารพาณิชย์ ให้บริการผ่านเคาน์เตอร์สาขาตู้ ATM และ Internet / Mobile banking
2. จุดรับชำระเงินผู้ให้บริการที่มิใช่ธนาคาร (Non-bank) เช่น ไปรษณีย์ไทยเคาน์เตอร์เซอร์วิส เทสโก้ โลตัส บิ๊กซี แฟมิลี่มาร์ท เอไอเอส ทีโอที เจมาร์ท ไอ-โมบาย
3. กระเป๋าเงิน e-Money ปัจจุบัน มีผู้ให้บริการ true money และ mPay
ลักษณะสำคัญของการชำระเงินตามใบแจ้งหนี้ มีดังนี้
ผู้ออกใบแจ้งหนี้ (biller) ต้องทำสัญญากับผู้ให้บริการรับชำระเงินแทน
เมื่อลูกค้าได้รับใบแจ้งหนี้จาก biller ลูกค้าสามารถนำใบแจ้งหนี้ไปชำระเงินที่ผู้ให้บริการรับชำระเงินแทนที่ได้ทำสัญญากับ biller ดังกล่าวไว้
ผู้ให้บริการรับชำระเงินแทนรับชำระเงินจากลูกค้าและมีหน้าที่นำส่งเงินที่รับชำระ เพื่อส่งมอบให้แก่ biller ตามเวลาและเงื่อนไขที่ได้ตกลงกันไว้
ผู้ให้บริการรับชำระเงินแทนออกหลักฐานการรับเงินให้แก่ลูกค้า
ข้อดีในการใช้บริการ
Bill
Payment
ผู้บริโภคได้รับความสะดวก สามารถจ่ายเงินตามใบแจ้งหนี้ได้หลายช่องทาง ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปชำระที่สำนักงานของ biller
ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าการจ่ายเงินให้กับผู้รับชำระเงินแทนตรงตามเวลา มีผลเท่ากับได้ชำระให้กับ biller ตรงตามเวลาเช่นกัน
ข้อควรระวังในการใช้บริการ
Bill
Payment
ควรศึกษาข้อมูลว่าใบแจ้งหนี้ของ biller สามารถนำไปชำระที่ผู้ให้บริการรับชำระเงินแทนรายใดได้บ้าง เพื่อจะได้เลือกช่องทางที่สะดวก หรือประหยัดค่าธรรมเนียมมากที่สุด
ควรตรวจสอบเงื่อนไขและค่าธรรมเนียมก่อนใช้บริการ เช่น ผู้ให้บริการรับชำระเงินแทนบางราย สามารถรับชำระได้เฉพาะใบแจ้งหนี้ที่ยังไม่ครบกำหนดเท่านั้น หากลูกค้าชำระเงินล่าช้ากว่าที่กำหนดในใบแจ้งหนี้ ลูกค้าต้องสอบถามจาก biller ว่าจะสามารถชำระผ่านช่องทางใดบ้าง นอกจากการไปชำระเงินที่สำนักงานของ biller โดยตรง
ระมัดระวังการชำระผ่านจุดรับชำระเงินที่ไม่ได้ขออนุญาตตามกฎหมาย และไม่ได้มีสัญญาผูกพันกับ biller แต่เป็นตัวกลางรับเงินและเดินทางไปจ่ายแทนลูกค้าที่สำนักงานของ biller หรือผู้ให้บริการรับชำระเงินแทนอีกทอดหนึ่ง ทั้งนี้ หากตัวกลางดังกล่าวไม่ได้นำเงินไปจ่ายให้ตามใบแจ้งหนี้ จะทำให้ลูกค้าเดือดร้อน สูญเงิน และกลายเป็นคนผิดนัดชำระ ซึ่งอาจทำให้ถูกระงับการให้บริการ (กรณีน้ำ-ไฟ) หรือถูกคิดค่าปรับหรือดอกเบี้ยกรณีชำระเงินล่าช้า (กรณีบัตรเครดิต)
กรณีใบแจ้งหนี้ที่มียอดเงินสูง ควรชำระผ่านช่องทางชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น เครื่อง ATM บริการ Internet / Mobile banking เป็นต้น เพื่อหลีกเลี่ยงการถือเงินสดติดตัวเป็นเวลานาน และลดความเสี่ยงจากการถูกโจรกรรม
เรื่องที่น่าสนใจ
รายชื่อผู้ให้บริการเลือกประเภทธุรกิจ “รับชำระเงินแทน”